หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

น้ำตกทีลอซู (Thi Lo Su Waterfall)


Thi Lo Su Waterfall 

          The most famous water fall in Tak is, Namtok Thi Lo Su ( Thi Lo Su waterfall ) is located in the Umphang Wildlife Sanctuary, a UNESCO World Heritage site, which links with the Thung Yai Naresuan and Huay Kha Kaeng Reserves, as well as Khlong Lan and Mae Wong National Parks. Together, they form Thailand's largest wildlife haven and one of Southeast Asia's few virgin forest.

Thi Lo in the local language means waterfall and Su means loud, thus, Thi Lo Su means waterfall that makes a loud noise. This is due to its size and the intense flow of the stream. In Karen "Gaolian", "Thi Lo Su" means Black Waterfall. So the origin of the name is uncertain.


The biggest and the most beautiful waterfall in Thailand, Namtok Thi Lo Su is also considered the sixth biggest waterfall in the world. The waterfall itself originates from Huai Klotho, streaming along limestone cliffs at a breath of 500 meters, the height of 160-170 meters down to cascading tiers which are surrounded by intact natural forests. There is a cave behind the waterfall well worth exploring and several levels of pools for swimming.



Getting there, visitors can drive, note that vehicles can possibly reach the office only during November to April. In the rainy season. For those deciding to drive a 4WD vehicle, the distance is 47 kilometers from (from the city of Tak to Umphang is about 5 hour drive by car) Umphang to the wildlife sanctuary office. From there, visitors have to walk along the 1.8 kilometers self-guided forest trail which provides unrivaled natural scenery. Camping at the Wildlife Sanctuary Headquarters is allowed near the falls, especially during October through December, when the waterfall is at its most beautiful.
Visitors are advised to make enquiries with the TAT Office in Tak Province (Tel: 05 551 4341-3) regarding travel conditions and camping opportunities.

น้ำตกทีลอซู

         น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจาก ระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วย ป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชียตามความจริงต้องออกเสียงว่า "ทีลอชู" และ เป็นคำนามในภาษากะเหรี่ยงแปลว่า "น้ำตก" ชื่อ "ทีลอซู" เป็นความพยายามแปลความหมายทีละคำ โดย "ที" หรือ "ทิ" แปลว่า "น้ำ" "ลอ" หรือ "ล่อ" แปลว่า "ตก" แต่ "ชู" ไม่มีความหมายใกล้เคียง ดังนั้นจึงมีความพยายาม ทำให้เป็นคำที่มีความหมาย เนื่องจาก "ซู" แปลว่า "ดำ" จึงนำไปสู่การเรียกว่า "ทีลอซู" และแปลว่า "น้ำตกดำ"

Tee lor su water fall

การเดินทางท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซูหลังจากมาถึงจุดกางเต้นท์แล้ว จะมีเส้นทางเดินไปยังน้ำตก ระยะทาง 1.5 กม. เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติผ่านป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ ระหว่างทางมีป้ายสื่อความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติและ พืชพันธุ์ตามจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เมื่อถึงบริเวณน้ำตก จะเห็นละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วโขดหินเบื้อง ล่าง มองเห็นธารน้ำตกลงมาจากผาหินปูนซึ่งอยู่สูงประมาณ300ม. ตามแนวกว้างกว่า500 ม. ท่ามกลางป่าครึ้มอาจ แบ่งธารน้ำตกได้เป็นสามกลุ่ม คือกลุ่มด้านซ้ายมือ (เมื่อหันหน้าเข้าหาน้ำตก) เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดสูงที่สุด และเป็น ด้านที่สวยที่สุด มีธารน้ำตกหลายสายไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเชิง ส่วนกลุ่มตรงกลาง สายน้ำไหลลงมาจาก หน้าผาสูงชันใกล้เคียงกบกลุ่มซ้ายมือแต่ไม่เป็นชั้นและแคบกว่า ส่วนกลุ่มทางขวามือ มีสายน้ำตกมากและ หน้าผาเตี้ยกว่าสองกลุ่มแรก เมื่อมองทั้งสามกลุ่มรวมกันจะเห็น น้ำตกทีลอซู ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามบริเวณ ด้านล่าง มีทางเดินไปยังจุดชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาฝั่งตรงกันข้าม เป็นจุดที่มองเห็น น้ำตกทีลอซู ได้สวยงาม และชัดเจนขึ้น ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 1 ชม

tee lor su


ทีลอซู ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ได้กำหนดให้น้ำตกทีลอซู เป็นหนึ่งในเก้าตะวัน ตามโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โดยมีจุดเด่นคือ "มหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู"



ฤดูกาลท่องเที่ยว

           ช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ มิ.ย. – ก่อนถึงวันที่ 1 พ.ย.นักท่องเที่ยวจะต้องล่องเรือยางจากตัวเมืองอุ้มผางตามลำน้ำกลองซึ่งจะได้ชมวิวทิวทัศน์อละความสมบูรณ์ของ ผืนป่าตลอดเส้นทาง ผ่านบ่อน้ำร้อน น้ำตกทีลอจ่อที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงและผ่านน้ำตกสายรุ้ง ซึ่งหากเดิน ทางไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จะเห็นรุ้งกินน้ำที่เกิดจากแสงที่ตกกระทบกับละลองน้ำของสายน้ำตก ผาผึ้ง ผาเลือด ผาบ่อง ผาโหว่ ก่อนจะแวะพักทานอาหารกลางวันกันริมน้ำใกล้ผาเลือด การล่องเรือจะใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง มาจนถึงจุดเดินเท้าระยะทาง 9 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องเดินเข้าไปยังจุดกางเต้นท์ ของที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เพราะยังไม่อนุญาติให้รถเข้า เส้นทางการเดินก็มีทั้งลาดชันขึ้นเขา ลงเขาและทางราบเรียบสลับกันไป เมื่อถึงที่ทำการพักผ่อน จากนั้นเดินเท้าเข้าไปยังน้ำตกอีกประมาณ 1.5 ก.ม. ก็จะถึงน้ำตกทีลอซู ในช่วงเวลานี้น้ำตกทีลอซจะมีปริมาณมาก ผืนป่าเขียวขจีและสีน้ำตกจะขุ่นเล็กน้อย รูปแบบนี้จะเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยและเดินป่า



อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

หากมาเที่ยวในช่วงนี้ต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้ดี เตรียมเสื้อกันฝน ถุงพลาสติก ลูกอม ยาดม หมวกให้พร้อม โดยเฉพาะรองเท้า ควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย ในช่วงล่องเรือไม่ควรใส่รองเท้าผ้าใบอาจ เปียกน้ำและ ทำให้เดินไม่สบายเท้า แต่เมื่อมาถึงช่วงเดินทางการใส่รองเท้าผ้าใบจะสบายเท้าที่สุด หรือหากใช้รองเท้าแบบ สายรัด หรือแบบอื่น ก็ย่อมได้ แต่สำคัญที่สุดควรเตรียมถุงเท้าไปใส่ด้วยหลังจากล่องเรือเรียบรอยแล้ว เพราะ ระยะทางการเดินไกล ไม่ว่าจะใส่รองเท้าแบบไหน สบายแค่ไหน โดนกัดทุกราย การใส่ถุงเท้าจะช่วยป้องการได้ และควรเตรียมพลาสเตอร์ปิดแผลป้องกันไว้ด้วย


ที่พัก

สถานที่พักผ่อนทริปท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซู มีให้เลือกหลายรูปแบบ
- ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง (นอนเต้นท์)
- ในตัวเมืองอุ้มผาง ทั้งที่ติดแม่น้ำและไม่ติดแม่น้ำ การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหมายเลข 1 สู่ จังหวัดตาก ก่อนถึง จังหวัดตาก ซ้ายมือมีทางแยกป้ายบอกทางเข้าสู่ อำเภอแม่สอด ระยะทางประมาณ 87 กิโลแมตร แล้วต่อจาก อำเภอแม่สอดไป อำเภออุ้มผาง เส้นทางนี้ ต้อง ระวังให้มาก เพราะเป็นเส้นถนนตัดผ่านเขาสลับซับซ้อนคดโค้งกว่าพันโค้ง ได้สัมญานามว่า"สายลอยฟ้า" ด้วยระยะทางประมาณ 164 กิโลเมตร กินเวลาประมาณ 4-5 ชั่งโมง ซึ่งไม่เบาเหมือนกัน ผู้ที่ขับรถไปเองต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ระหว่างทางทิวทัศน์ชวนให้หลงใหลเพลิดเพลินไปกับการเดินทาง จากเส้นทางอุ้มผางสู่น้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 43 กิโล ถึงเขตรักษาพันธุ์ฯ แล้วเดินเท้าเข้าไปที่น้ำตกอีก 1.8 กิโลก็จะถึงถึงน้ำตกทีลอซู ความเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางก็หมดสิ้นไป สายน้ำตกแห่งความอลังการทีลอซู


การเดินทาง

การเดินทาง รถยนต์ จากอำเภออุ้มผางใช้เส้นทางสายอุ้มผาง-แม่สอด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 161 มีทางแยกซ้ายที่บ้านแม่กลองใหม่ได่านเดลอ หรือจุดตรวจ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง” เป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร (สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถเข้าน้ำตกทีลอซูต้องติดต่อขอรับใบอนุญาตเข้าที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง (สป. ๗) ได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผางก่อนทุกครั้ง นักท่องเที่ยวต้องยื่น สป. 7 ที่ด่านเดลอ) จากนั้นเดินทางไปตามถนนลูกรังอีก 26 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมง เส้นทางช่วงนี้เป็นทางดิน ควรใช้รถปิคอัพ หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่ช่วงล่างมีความสูงมากพอสมควร ในฤดูฝนรถอาจเข้าไม่ได้ และจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จึงถึงตัวน้ำตกทีลอซู


















วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ภูเรือ(Phu Rua National Park)

ภูเรือ(Phu Rua National Park)

Located in the Loei province of north-east Thailand, Phu Rua national park is bordering with Laos in the north. The sandstone and granite mountains are the source of numerous streams. At elevations of 600 to 1000 meters tropical broadleaved evergreen forests are found and above these is submontane broadleaved evergreen.

The hottest time is between March to May and the lowest temperature in the month of December in high land could be near freezing. The area receives rain from May till end of September.


Once alive with barking deer, wild pig, pheasant and other animals, Phu Rua's wildlife has declined in the recent past. More than 20 species of birds probably still exist in the park. 

Climbing the 1365 meters Phu Rua is a popular highlight. The starting point is located 5 km from the park's headquarters. The ascent is relatively easy and it takes 2 to 2.5 hours. On the submit there are meadows, stands of pine and gardens of rock. A portion of Phu Rua, or boat mountain, is shaped like a large vessel. A statue of Lord Buddha at the submit is a popular pilgrimage site for locals. The views from the submit are splendid: the Mekong river which marks the border between Thailand and Laos, the mountain ranges of Laos and surrounding beauty of the park. Sunrises are very spectacular. There are a couple of fine viewpoints within a few kilometers of the headquarters.

Bungalows are available near the headquarters.Tents are also available for rent

อุทยานแห่งชาติภูเรือ หนาวสุดในแดนสยาม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อาณาเขตด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว รูปพรรณสันฐานของภูเรือ มีรูปร่างลักษณะเหมือน เรือใหญ่บน ยอดดอยสูง เป็นภูผาสีสันสะดุดตา หินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่า อันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตรพื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ ขนานนามว่า “ภูเรือ” เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขา มีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ



ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูง ที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับ น้ำทะเล ปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเกียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง


ลักษณะภูมิอากาศ
ด้วยอุทยานแห่งชาติภูเรืออยู่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทย และอยู่บน ยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้า จะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “แม่คะนิ้ง” ผู้ที่จะไปพักผ่อนควร เตรียมตัวให้พร้อม ที่จะผจญกับความหนาวเย็น

พรรณไม้และสัตว์ป่า
ภูเรือ มีสภาพป่าหลายชนิดปะปนกันอย่างสวยงาม ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ ป่าสนเขา โดยเฉพาะ ยอดภูเรือ ประกอบด้วยป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติแซมด้วยพุ่มไม้เตี้ย สลับด้วยทุ่งหญ้าเป็นระยะ ที่พบ โดยทั่วไป ได้แก่ กุหลาบป่า มอส เฟิน และกล้วยไม้ที่สวยงาม เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง เอื้องเงิน ซึ่งขึ้นตามต้นไม้และโขดหิน กล้วยไม้เหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งให้ชมสลับกันไปตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ป่าภูเรือยังมีสัตว์ป่าที่ชุกชุมพอสมควร ที่พบบ่อย เช่น หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า และชุกชุมไปด้วยกระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลูและนกชนิดต่างๆ ที่สวยงาม อีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก


ที่พักแรม
มีบ้านพักอุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บริการในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติสถานที่ กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการ อุทยานแห่งชาติ 2 จุด (กำลังจัดทำใหม่ 1 จุด) บริเวณภูสน 1 จุด การสำรองที่พักเต็นท์ มีห้องสุขาและ ห้อง อาบน้ำให้บริการ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยาแห่งชาติโดยตรง



อุทยานแห่งชาติภูเรือ
ต.หนองบัว อ. ภูเรือ จ. เลย 42160
โทรศัพท์ : 0 4288 1716, 0 4288 4144โทรสาร : 0 4285 3333
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลย ประมาณ 48 กิโลเมตร โดยเดินทางไปโดยทางหลวงแผ่นดิน หมาย เลข 203 ถึงอำเภอภูเรือ จะมีป้ายอุทยานแห่งชาติอยู่ปากทางเข้าซึ่งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอภูเรือ (มาจากจังหวัดเลย ป้ายจะอยู่ทางด้านขวามือ มาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้ายจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) จากปากทางเข้าเดินทางต่อไปอีก ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ถนนภายในอุทยานแห่งชาติเป็นถนนลาดยาง เป็นถนนบน ภูเขาบางช่วงมีความลาดชัน นักท่องท่องเที่ยวควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังใช้เกียร์ต่ำมิฉะนั้นจะทำให้เบรคไหม้ได้

2.โดยรถสาธารณะ
จากกรงุเทพสามารถนั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งมีรถทัวร์ให้บริการหลาย บริษัท มาลงหน้าตลาดเช้า ใกล้ภูเรือ ติดต่อเหมารถสองแถวขึ้นไปได้จากตรงนี้ 

ที่จอดรถ
อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมลานจอดรถไว้ให้บริการ 2 แห่ง บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติและลานกางเต็นท์

บริการอาหา 
อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยว ตามสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ ดังนี้ 
1) บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
2) บริเวณลานกางเต็นท์ภูสน

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนไปท่องเที่ยว ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ และบริเวณสถานที่กางเต็นท์ภูสน